เผยแมนยูวืดจอมแกร่งไลป์ซิกตอนค่าตัวสุดถูก ตอนนี้จะเอาต้องจ่ายทะลุ2.2พันล้าน!

สื่อเผย ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส เกือบได้ย้ายมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายต้องล่มเพราะ "ปีศาจแดง" เหนียวเงินแค่ 2 แสนปอนด์เท่านั้น
   
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พลาดได้ตัว ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งคนเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างน่าเสียดายเมื่อปี 2015 ตามรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ในเวลานั้น อูปาเมกาโน่ ที่อายุ 16 ปี เล่นอยู่กับ วาล็องเซียนส์ สโมสรในฝรั่งเศส และ "ปีศาจแดง" ก็เกือบจะได้ตัว หลังนักเตะ, คุณแม่ และเอเยนต์ เดินทางมาแดนผู้ดีเพื่อตกลงเรื่องย้ายทีมแล้ว

อย่างไรก็ตาม อูปาเมกาโน่ ต้องเดินทางกลับฝรั่งเศส พร้อมกับความผิดหวัง หลังจากทั้งสองสโมสรคุยกันเรื่องค่าตัวไม่ลงตัว โดย วาล็องเซียนส์ ต้องการได้ 700,000 ปอนด์ (ประมาณ 28 ล้านบาท) ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมให้แค่ไม่เกิน 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) เท่านั้น

หลังจากนั้น อูปาเมกาโน่ ก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกองหลังฝีเท้าเยี่ยม และได้มีโอกาสไปเล่นให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อปี 2016 ก่อนมาอยู่กับ ไลป์ซิก เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 360 ล้านบาท) โดยเวลานี้มีหลายทีมจับตามองทั้ง เรอัล มาดริด, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด

ขณะที่ค่าตัวของกองหลังวัย 21 ปีในเวลานี้คาดว่าอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) หลังทำผลงานเยี่ยม และลงเล่นให้ ไลป์ซิก ไปแล้ว 118 นัด รวมทั้งติดทีมชาติฝรั่งเศส ไปแล้ว 3 เกม

ทอฟฟี่แตก!อันเช่เปิดใจหลังเกมเอฟเวอร์ตันโดนเซาธ์แฮมป์ตันสอย

คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือเอฟเวอร์ตัน เปิดใจถึงผลงานของทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ในแมตช์ออกไปโดน เซาธ์แฮมป์ตันสอย เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมชี้จังหวะที่ ลูก้าส์ ดีญ โดนใบแดงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับนักเตะเลย
    คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ เอฟเวอร์ตัน ยอมรับแมตช์นี้ลูกทีมของตนทำผลงานได้น่าผิดหวัง ส่งผลให้ต้องออกไปพ่าย "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน 0-2 ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

    เซาธ์แฮมป์ตันทำผลงานได้อย่างดุดันโดนได้สองประตูจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์  กับ เช อดัมส์ ในช่วงครึ่งแรก ขณะที่ครึ่งหลังในนาทีที่ 72 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องมาเสียเปรียบเมื่อ ลูก้าส์ ดีญ ไปเข้าหนักใส่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

    สำหรับการออกไปแพ้ "นักบุญ" ในแมตช์นี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน พ่ายเป็นเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ ทำให้ตอนนี้ทีมมี 13 คะแนนเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แต่ผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่าจึงยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงลีกต่อไป โดยหลังจบเกม อันเชลอตติ ยอมรับว่าผลงานของนักเตะในแมตช์นี้น่าผิดหวังมากๆ

    "มันไม่ใช่วันที่ดีและก็ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีสำหรับเรา เราอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพ่ายแพ้เกมแรก และผมรู้สึกว่าเราต้องพัฒนาต่อไปอีก แน่นอนว่าเราไม่อยากแพ้ แต่ในวงการฟุตบอลเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ เราต้องมองไปข้างหน้าจากเกมนี้ พร้อมกับยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างที่เราเคยมี แต่เรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้"

    ขณะเดียวกัน "คาร์เล็ตโต้" ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ ดีญ โดนไล่ออกจากสนามว่า "ผมคิดว่ามันรุนแรงมากๆ เราจะทำการอุทธรณ์ในเรื่องนี้ มันไม่ใช่จังหวะที่เจตนาทำเลย มันไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง จริงๆ แล้วแค่ใบเหลืองก็พอแล้ว แต่นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง และใบแดงถือว่าไม่ยุติธรรม"

เลี้ยงหลบ 10 กว่าครั้ง วิ่งเกือบสิบโล! บีจี เผยสถิติสุดยอดเยี่ยม สิโรจน์ เกมชนะสุโขทัย

ความเคลื่อนไหวของ บีจี  ปทุม ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงในศึกฟุตบอลไทยลีก 2020 ที่เกมล่าสุดบุกไปเอาชนะ สุโขทัย ด้วยสกอร์ 3-2 ซึ่งเกมนี้ สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าตัวเก่งดีกรีทีมชาติไทยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและมีส่วนร่วมถึงสองประตูด้วยกันให้กับ บีจี

ล่าสุดเป็นทาง บีจี ได้ออกมาเผย สถิติที่ยอดเยี่ยมของ สิโรจน์ ฉัตรทอง ในเกมกับ สุโขทัย โดยเผยว่า " BG THE STATS : การกลับมาลงตัวจริงอีกครั้งของ “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง ในเกมที่พบกับสุโขทัย เอฟซี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ทำให้สาวก “เดอะ แรบบิท” ผิดหวัง !! ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและเป็นส่วนสำคัญให้ทีมได้รับชัยชนะ "

ผลงานของสิโรจน์ ฉัตรทอง ในเกมที่พบกับ สุโขทัย เอฟซี

1. ลงเล่น 78 นาที

2. มีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมทีม 70 ครั้ง

3. ทำ 1 ประตู

4. เลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ 13 ครั้ง

5. เข้าปะทะ 9 ครั้ง

6. วิ่ง 8.1 กิโลเมตร

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ บีจี จะมีคิวบุกไปปเยือน สิงห์ เชียงราย ในวันที่ 31 ตุลาคม ที่ สิงห์ สเตเดียม

จบไหม!มูรินโญ่เปิดใจฟอร์มเบลเกมสเปอร์สเสมอเวสต์แฮม

โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ส่ายหัวไม่สนบรรดานักข่าวที่พยายามเสี้ยมให้เจ้าตัวแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลงานของ แกเร็ธ เบล ในแมตช์เสมอ เวสต์แฮม 3-3 เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชี้ชัดนี่มันเรื่องของการแข่งขันของสองทีมจะมาเน้นอะไรกับผลงานของคนๆ เดียว

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมจอมแท็คติก "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปฏิเสธที่จะวิจารณ์ผลงานของ แกเร็ธ เบล ปีกมากประสบการณ์ที่ลงเล่นเปิดตัวให้ต้นสังกัดในแมตช์เสมอ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา

เบล ถูกส่งลงมาเล่นในครึ่งหลังนาทีที่ 72 โดยในเวลานั้น สเปอร์ส ยังมีสกอร์นำห่าง "เดอะ แฮมเมอร์ส" 3-0 แต่หลังจากนั้นทีมเยือนยิงได้ 2 ประตูรวดในเวลาไม่ถึง 5 นาที ทำให้สกอร์ตามมาเป็น 3-2 อย่างไรก็ตาม สตาร์ชาวเวลส์ มีโอกาสทองที่จะยิงประตูฝัง เวสต์แฮม เมื่อหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ดันยิงออกไปหน้าตาเฉย

จนกระทั่งเกิดเหตุเสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด เมื่อ เวสต์แฮม มาได้ประตูสุดงามจากการยิงแบบผีจับยัดของ มานูเอล ลานซินี่ ในนาทีที่ 90+4 ส่งผลให้ทีมของกุนซือเดวิด มอยส์ บุกมาแบ่งแต้มไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยหลังจบเกม มูรินโญ่ ยังคงรู้สึกผิดหวังที่ทีมพลาดเก็บชัยชนะ แต่ก็ชื่นชม "ขุนค้อน" ที่เล่นด้วยความทุ่มเท

สำหรับคำถามเกี่ยวกับผลงานของ เบล ซึ่งลงเล่นเกมแรกนับตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่กับต้นสังกัดนั้น มูรินโญ่ กล่าวว่า "ก่อนเกมพวกคุณอยากพูดเกี่ยวกับ แกเร็ธ และหลังเกมพวกคุณก็ยังคงอยากพูดเรื่อง แกเร็ธ แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดมันเกี่ยวกับ ท็อตแน่ม-เวสต์แฮม และนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด"

 

แม็กไกวร์ตอบโต้เสียงวิจารณ์แมนยูตลกสิ้นดี

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่สนคำวิจารณ์ที่มีต่อทีม โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่น่าตลกที่มาหาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงวิกฤติครั้งใหญ่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ นิวคาสเซิล 4-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยฟอร์มการเล่นแสดงออกมาให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอีกครั้ง แก้ตัวจากเกมก่อนที่แพ้ต่อ ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ 1-6 คาสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

‘ปีศาจแดง’ ได้ประตูจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อารอน วาน-บิสซาก้า และ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยกัปตันทีมอย่าง แม็กไกวร์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าไม่ได้สนคำจารณ์เชิงลบที่มีต่อตนและเพื่อนร่วมทีม

"มันน่าตลกสิ้นดี 3 สามเกมผ่านไปของฤดูกาล และดูเหมือนว่าเป็นเรื่องวิกฤติครั้งใหญ่ การชนะ 2 แพ้ 2 เส้นทางยังมีอีกยาวไกล ซึ่งเราต้องพิสูจน์ให้เห็น" แม็กไกวร์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ต

"เมื่อคุณเล่นให้กับสโมสรนี้ และแพ้ในบ้านตัวเอง เราก็ถูกตั้งคำถามขึ้น เราทำงานหนักในตอนซ้อม นี่คือกลุ่มที่ยอดเยี่ยม และเราก็รู้ดีว่าเราต้องกลับมาให้ได้ ผมรู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องเลวร้ายหากเรากลับออกไปแค่คะแนนเดียว"

"มันเป็นเรื่องสำคัญ ทุกๆ เกมใน พรีเมียร์ลีก เราต้องเล่นให้ได้ในระดับสูง บางเกมเราไม่สามารถทำได้ดีที่สุด แต่เราก็ต้องทำเรื่องพื้นฐานให้ได้ดี และในเกมที่เราแพ้ เราทำมันไม่ได้ดีเท่าที่ควร"
   
"พวกเราเป็นทีมที่อายุน้อย แต่เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง มันเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ออกสตาร์ทแบบนี้ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมในคืนนี้ก็เกิดขึ้นในยามที่เราต้องการมัน"

ตัวเลขช่วยยัน! เมื่อ โอซิล ไม่จำเป็นกับ อาร์เซน่อล อีกต่อไป

ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ เมซุต โอซิล แค่รอนับวันย้ายออกจาก อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการมันก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาถึงขั้นไม่ถูกทีมใส่ชื่ออยู่ในขุมกำลังชุดที่จะได้สิทธิ์เล่นทั้งเกมระดับ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยสาเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้นมีทั้งการลือว่ามันเป็นเพราะเรื่องผลงานของเขาล้วนๆ และเรื่องการตลาดจากการที่เจ้าตัวเคยด่าประเทศจีนในกรณีที่ปฎิบัติกับชาวอุยกูร์แบบไม่เป็นธรรม
    การที่นักเตะซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับ โอซิล ถูกต้นสังกัดมองข้ามมากถึงขนาดนี้ทำให้หลายคนใจหายไม่น้อย เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะเคยคิดว่านักเตะที่เคยได้แชมป์มากมายก่ายกอง รวมถึงรับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของทีมที่ 350,000 ปอนด์ จะไม่มีที่ว่างแม้กระทั่งเป็นอะไหล่ด้วยซ้ำ

    ถึงกระนั้น ถ้ามองเฉพาะที่เรื่อง "ผลงานส่วนตัว" แล้วนั้น มันปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า โอซิล โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังจนถึงขนาดที่ต่อให้ไม่มีเขาอยู่ในทีมก็อาจจะไม่ได้ส่งผลเสียอะไรเลย

    จากการลงเล่นในลีก 38 นัดในฤดูกาลก่อนของ อาร์เซน่อล นั้น โอซิล ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงไป 18 นัด ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงทั้งหมดใน 10 เกมแรกภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วย ถึงกระนั้น ในช่วงเวลา 18 เกมที่ว่า อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะได้เพียง 27.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

    ในทางกลับกัน 20 เกมในลีกของ อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลก่อนที่ โอซิล ไม่ได้เป็นตัวจริง และไม่ได้ลงเล่นนั้น "ไอ้ปืนใหญ่" สามารถเก็บชัยชนะได้สูงถึง 45 เปอร์เซนต์ ดังนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าค่าเฉลี่ยการได้แต้มต่อ 1 เกมนั้น อาร์เซน่อล จะได้แต้มมากกว่าเมื่อไร้เงา โอซิล เป็นตัวจริง เพราะพวกเขาทำได้ 1.6 แต้มต่อเกม ขณะที่พอมี โอซิล ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม พวกเขาเก็บได้ 1.3 คะแนนต่อนัด

    ถ้าจะมีอะไรที่เท่ากันคงเป็นค่าเฉลี่ยจำนวนประตูที่ทำได้ต่อ 1 เกม เพราะไม่ว่าจะทั้งตอนที่ โอซิล ได้เป็นตัวจริง หรือตอนที่ทั้งไม่ได้เป็นตัวจริงกับไม่ได้ลงเล่นนั้น อาร์เซน่อล ก็ทำได้ 1.5 ประตูในลีกต่อเกมเท่ากันเป๊ะ

    นอกจากนี้ ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานในช่วงหลายฤดูกาลก่อนแล้วล่ะก็ มันก็จะเห็นได้ชัดว่า โอซิล ฟอร์มดร็อปลงอย่างมากจริงๆ โดยในฤดูกาล 2015-16 เขาโชว์ฟอร์มการเป็นจอมปั้นเกมได้สุดยอดด้วยการทำได้ถึง 19 แอสซิสต์ในลีก จากการลงเล่น 3,047 นาที แถมยังทำได้ 6 ประตูด้วย

    อย่างไรก็ตาม พอถึงซีซั่น 2016-17 ถึงแม้เขาจะทำประตูในลีกได้ 8 ลูก แต่จำนวนการแอสซิสต์ลดฮวบเหลือเพียงแค่ 9 หนเท่านั้น ทั้งที่เขาเล่นในฤดูกาลดังกล่าวไป 2,847 นาที ซึ่งหลังจากนั้นผลงานการแอสซิสต์ของเขาก็ยังไม่ดีขึ้นเมื่อทำไปแค่ 8 แอสซิสต์ในซีซั่น 2017-18 จากการลงเล่น 2,164 นาที

    ส่วนในฤดูกาล 2018-19 กับ 2019-20 นั้น เขาก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมไปแล้วจนทำให้คงไม่จำเป็นต้องนับรวมเพื่อเอามาเปรียบเทียบ แต่ถ้าใครอยากรู้ก็ขอบอกเลยว่าใน 2 ซีซั่นนั้นเขาทำได้ 2 แอสซิสต์เท่ากันจากการลงเล่น 1,741 นาที กับ 1,448 นาที ตามลำดับ

    ตารางเปรียบเทียบผลงานของ อาร์เซน่อล ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 ระหว่างตอนที่ โอซิล เป็นตัวจริง กับตอนที่ โอซิล ไม่ได้เป็นตัวจริง/ไม่ได้ลงเล่น

      ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเทียบระหว่างดฤดูกาล 2015-16 กับ 2016-17 แล้วล่ะก็ โอซิล ยังมีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูลดฮวบได้ โดยในซีซั่น 2015-16 เขาสร้างโอกาสทำประตูในลีกจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ได้ถึง 4.31 ครั้งต่อเกม แต่ในซีซั่นต่อมาลดเหลือที่ 3.16 ครั้งต่อนัด

    แม้ว่าในฤดูกาล 2017-18 ตัวเลขด้านค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูจะดีขึ้นนิดหน่อยจนมาอยู่ที่ 3.49 ครั้งต่อเกม แต่มันก็ยังไม่คู่ควรกับคนที่รับค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อยู่ดี

    ตัวเลขตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ในระดับหนึ่งว่าต่อให้ อาร์เซน่อล จะไม่มี โอซิล อยู่ในทีม แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียหายร้ายแรงอะไร ถ้าจะมีเรื่องที่น่าเสียดายก็คงจะเป็นการที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องแยกจากกันแบบไม่ดีเท่าไหร่นั่นเอง

    ตารางเปรียบเทียบผลงานของ โอซิล ใน พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้นมา

แมนยูปวดหัว!ไบยี่เดี้ยงจากเกมทีมชาติ

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอเรื่องชวนปวดหัวอีกระลอก เพราะล่าสุด เอริค ไบยี่ ปราการหลังกระดูกยุง เจ็บอีกแล้ว หลังลงเล่นให้ทีมชาติไอวอรี่โคสต์ เมื่อคืนที่ผ่านมา
    เอริค ไบยี่ เซนเตอร์แบ็ก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับบาดเจ็บที่ดูเหมือนจะเป็นตรงบริเวณกล้ามเนื้อหลังต้นขาขวา ระหว่างลงเล่นให้ทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอ เบลเยียม 1-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

     ช่วงกลางครึ่งหลังเกมดังกล่าว ไบยี่ มีอาการบาดเจ็บเล่นงานจนเล่นต่อไม่ไหว ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 70 (โอดิลอน คอสซูนู ลงเล่นแทน) ซึ่งถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า เจ้าตัวเจ็บรุนแรงแค่ไหน แต่ถือเป็นข่าวที่ไม่สู้ดีสำหรับ "ปีศาจแดง" ที่ออกสตาร์ทในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้อย่างน่าผิดหวัง โดยเฉพาะความอ่อนแอในเกมรับ หลังล่าสุดพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-6 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม

     ทั้งนี้ ไบยี่ วัย 26 ปี เคยมีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า จนต้องพักแข้งยาวตลอดช่วง 6 เดือนแรกของการแข่งขันฤดูกาลที่แล้ว

 

ซื้อมาก็ใช้ด้วย! จัด 11 ตัวจริงแมนยูหาก 4 แข้งใหม่ลงครบ

แม้จะเป็นตลาดนักเตะที่น่าผิดหวังสำหรับแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากพลาดคว้าตัวเป้าหมายหลักอย่าง เจดอน ซานโช่ รวมถึงการเจรจาที่ล่าช้าของทีมงานซื้อขาย แต่ซัมเมอร์นี้ “ผีแดง” ก็สอยนักเตะมาถึง 5 คนซึ่งในรายของ อาหมัด ตราโอเร่ ปีกดาวรุ่งจากอตาลันต้าจะย้ายมาในช่วงมกราคม ส่วนนักเตะใหม่ที่เหลือพร้อมใช้งาน ดังนั้นเรามาลองจัดแผนการเล่นหากทั้ง 4 แข้งใหม่นี้ลงสนามพร้อมหน้าพร้อมตากัน

วันสุดท้ายของตลากนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด สอยผู้เล่นมาทั้งหมด 4 รายด้วยกันได้แก่ เอดินสัน คาวานี่, อเล็กซ์ เตลลิส, ฟากุนโด้ เปยิสตรี และ อาหมัด ตราโอเร่ บวกกับแข้งใหม่ก่อนหน้านี้อย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค รวมแล้วเป็น 5 รายด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าจะพลาดตัวปีกขวาระดับซีเนียร์ทั้ง เจดอน ซานโช่ และ อุสมาน เดมเบเล่ รวมถึง อิสไมล่า ซาร์ แต่โซลชายังแฮปปี้กับขุมกำลังในปัจจุบัน

หลังจากออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างย่ำแย่ด้วยการแพ้ 2 จาก 3 นัด ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับกุนซือชาวนอร์เวย์ที่จะใช้แข้งใหม่เหล่านี้อย่างไร

ที่แน่นอนคือ โซลชา คงยึดมั่นในแผนการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม ดังนั้นคนที่มีโอกาสแย่งตัวจริงมาได้เลยมีอยู่สองคนนั่นคือ คาวานี่ ในตำแหน่งกองหน้าและ เตลลิส ในตำแหน่งแบ็กซ้าย

เหตุผลที่แท้จริง!ลินเดอเลิฟเผยสาเหตุแมนยูฟอร์มแย่

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังเลือดสวีดิช เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มในลีกได้น่าผิดหวัง เพราะการที่พวกเขาได้พักน้อยกว่าทีมอื่นๆ ในลีก แต่เชื่อหลังเกมพักเบรกทีมชาติทุกๆ อย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ
    วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เซนเตอร์แบ็ก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงเปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทัพ "ปีศาจแดง" ทำผลงานได้ย่ำแย่ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2020/2021 จนทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" รู้สึกผิดหวังกันเป็นทิวแถว

    "เร้ด เดวิลส์" เปิดฉากซีซั่นใหม่ไม่ค่อยโสภาสถาพรโดยในเกมลีกพวกเขาลงสนามไปแล้ว 3 แมตช์ชนะ 1 แพ้ 2 ซึ่งทั้งสองแมตช์พ่ายแพ้ในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้แก่ "ดิ อีเกิลส์" คริสตัล พาเลซ (สกอร์ 1-3) และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (1-6)

    ลินเดอเลิฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง เชื่อว่าการที่พวกเขาไม่ได้มีเวลาพักผ่อนมากเนื่องจากต้องลงเล่นในเกมรอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ขณะที่ทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก ได้พักฟื้นร่างกายอย่างเต็มที่ คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟอร์มของพวกเขาย่ำแย่แบบนี้

    "มันไม่ใช่การเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมสำรหับเราในเกมลีก ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะเราลงเล่นต่อเนื่องในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป (เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา) และไม่ได้มีเวลาพักอย่างที่เราเคยทำตามปกติ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะตอบ บางทีเรามีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ 1-2 สัปดาห์ก่อนที่ลีกจะเปิดฉาก"

    "เราไม่ได้อยู่ในระดับ (ฟอร์มการเล่น และสภาพร่างกาย) อย่างที่เราต้องการ แต่ผมคิดว่าหลังจากเกมพักเบรกทีมชาติ มีนักเตะหลายคนที่จะกลับมา และพร้อมที่จะแสดงผลงานในระดับที่เราสามารถทำได้" ปราการหลังทีมชาติสวีเดน กล่าว

จะเอาให้ได้!โซลชาหวังสอย2สตาร์ดอร์ทมุนด์เสริมทัพ

สื่อดังรายงาน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมแพ้ที่จะคว้าตัว เจดอน ซานโช่ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ สองสตาร์ฟอร์มบรรเจิดจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเสริมทัพ โดย "น้าลูกอม" เชื่อว่าทั้งคู่เป็นแผนการสร้างทีมระยะยาวที่เพอร์เฟกต์ของทัพ "ปีศาจแดง"

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีความต้องการที่จะได้ตัว เจดอน ซานโซ่ และ  เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ สองสตาร์ดัง "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ได้ จากการเปิดเผยของ "อีเอสพีเอ็น" สื่อดังระดับโลก

"เร้ด เดวิลส์" ต้องพบกับความผิดหวังในการคว้า ซานโซ่ และ ฮาแลนด์ มาเล่นให้กับทีม อย่างไรก็ตาม "น้าลูกอม" สามารถหาแนวทางในการแก้ไขด้วยการเซ็นสัญญานักเตะหลายรายรวมถึง เอดินสัน คาวานี่ กองหน้ามากประสบการณ์ชาวอุรุกวัย ในช่วงซัมเมอร์นี้